บทที่5 E-Marketing
E-Marketing
ย่อมาจากคำว่า Electronic Marketing หรือเรียกว่า “การตลาดอิเล็กทรอนิกส์” หมายถึงการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งาน เข้ามาเป็นสื่อกลาง
ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือพีดีเอ
ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยอินเทอร์เน็ต มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด
การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง
ความสัมพันธ์ระหว่าง
E-Marketing(EM) กับ E-commerce(EC) มีอยู่ 3
สถานะ คือ
1. E-Marketing และ E-Business มีความคล้ายกับอยู่บางส่วน
2. E-Marketing และ E-Business มีความเหมือนกันหรือเท่ากัน
3. E-Marketing เป็นส่วนหนึ่งของ E-Business
และปัจจุบันมักกลายเป็นแบบนี้
ลักษณะการนำ E-Business
มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้แก่
--- การเชื่อมต่อระหว่างกัน ภายในองค์กร
(Intranet)
--- การเชื่อมต่อระหว่างกันภายในองค์กร และ ภายนอกองค์กร (Extranet)
--- การเชื่อมต่อระหว่างกัน กับลูกค้าทั่วโลก
(Internet)
ความแตกต่างระหว่าง E-Marketing และ E-Commerce
นักการตลาดชื่อ Smith and
Chaffey ได้กล่าวถึงประโยชน์จากการนำเอาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาช่วยสนับสนุนการทำการตลาดและก่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย
โดยมองว่า E-Marketing เป็น กระบวนการในการจัดการทางการตลาด
โดยมีการเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญแก่ลูกค้าเป็นหลัก
ในขณะที่แสดงถึงการเชื่อมโยงการทำงานทางธุรกิจในอันที่จะช่วยสร้างความสำเร็จในผลกำไรให้กับธุรกิจ
สามารถแบ่งกระบวนการในการจัดการทางการตลาดได้ดังนี้
1.
การจำแนกแยกแยะ (Identifying) สามารถทำการจำแนกแยกแยะได้ว่าลูกค้าเป็นใคร มีความต้องการอย่างไร
อยู่ที่ไหน และมีพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าอย่างไร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
2.
การทำนายความคาดหวังของลูกค้า
(Anticipating) เนื่องจากความสามารถของอินเทอร์เน็ตนั้นช่วยเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล
และสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น
โดยการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำ E-Marketing ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ สายการบินต้นทุนต่ำ easyJet (http://www.easyjet.com) มีส่วนสนับสนุนทำให้มีรายได้จากการผ่านออนไลน์กว่า 90%
3. การตอบสนองความพอใจของลูกค้า (Satisfying) ถือเป็นความสำเร็จในการทำ E-Marketing ในการสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ การเพิ่มขึ้นของลูกค้านั้นอาจจะมาจาก การใช้งานง่าย การสนับสนุนการให้บริการแก่ลูกค้า เป็นต้น
3. การตอบสนองความพอใจของลูกค้า (Satisfying) ถือเป็นความสำเร็จในการทำ E-Marketing ในการสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ การเพิ่มขึ้นของลูกค้านั้นอาจจะมาจาก การใช้งานง่าย การสนับสนุนการให้บริการแก่ลูกค้า เป็นต้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเอากลยุทธ์การตลาด
ออนไลน์มาใช้ได้แก่
"5Ss"
1. การขาย (Sell) ช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดออนไลน์
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทำให้ลูกค้ารู้จักและเกิดความทรงจำ (Acquisition and Retention tools) ในสินค้าบริการเราเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งนำไปสู่การขายที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
2. การบริการ (Serve) การสร้างประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นให้แก่ลูกค้า
จากการใช้บริการผ่านออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิพิเศษต่างๆ เป็นต้น
3. การพูดคุย (Speak) การสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
โดยสามารถสร้างแบบสนทนาการโต้ตอบกันได้ระหว่างกันได้ (Dialogue) ทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาสอบถาม ตลอดจนสามารถสำรวจความคิดเห็น
ความต้องการของลูกค้า ลูกค้ามีความสนใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ
4. ประหยัด (Save) การสร้างความประหยัดเพิ่มขึ้นจากงบประมาณการพิมพ์กระดาษ
โดยสามารถใช้วิธีการส่งจดหมายข่าว E-Newsletter ไปยังลูกค้าแทนการส่งจดหมายแบบดั้งเดิม
5. การประกาศ (Sizzle) การประกาศสัญลักษณ์ ตราสินค้าผ่านออนไลน์
ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสินค้าของเราให้เป็นที่รู้จัก มีความคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น
การทำ E-Marketing ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจในหลายๆ ประการ
ทั้งในแง่ของกลุ่มผู้ประกอบการ เจ้าของสินค้า และในแง่ของกลุ่มลูกค้า
ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว และด้วยต้นทุนที่ต่ำ
ส่วนผสมทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ผลิตภัณฑ์ (Product)
หมายถึง
สินค้าและบริการต่าง ๆ
โดยผู้จัดทำเว็บไซต์จะต้องพยายามให้รายละเอียดของตัวสินค้า มากที่สุด
โดยเนื้อความไม่เกินเลยความจริง และให้เกิดความน่าสนใจในตัวสินค้า มากขึ้น
ราคา (Price)
ส่วนใหญ่ราคาสินค้าในอินเทอร์เน็ตมักมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดแต่พอมาคิดรวมกับค่าขนส่งทำให้มีราคาแพง
ทางแก้ไขคือ
สถานที่ (Place)
คือ ช่องทางในการจัดจำหน่าย
เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตมีอยู่มากมายส่วนใหญ่สาเหตุมาจากมีช่องทางการจำหน่ายไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าสินค้ามีกลุ่มเป้าหมายคือคนวัยทำงานอายุ 35 ปีขึ้นไป
แต่หากไปประชาสัมพันธ์กลุ่มวัยรุ่น เป้าหมายจึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
การส่งเสริมการขาย (Promotion)
คือ การส่งเสริมการขาย
ถือว่าเป็นจุดขายที่สามารถดึงดูดให้ลูกค้าสนใจซื้อสินค้า อาจใช้วิธีการ ลด แลก แจก แถม ให้กับลูกค้า เช่น การให้สิทธิพิเศษกับสมาชิก
หรือลูกค้าประจำที่เข้ามาติดต่อสั่งซื้อเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำ
เครือข่ายสังคม (Social
Network)
คือ เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต เขียนและอธิบายความสนใจ
และกิจการที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น
ในบริการเครือข่ายสังคมมักจะประกอบไปด้วย การแชตพูดคุยสนทนา ส่งข้อความ ส่งอีเมล วิดีโอ เพลง อัปโหลดรูป บล็อก เป็นต้น
การขายบนเว็บไซต์
ระบบป้องกันความปลอดภัย
ในปัจจุบันระบบรักษาความปลอดภัย หรือ Security System นั้นเป็นอีกระบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากไม่ว่าเป็นกลุ่มสำนักงานสถานที่ราชการที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรร
โรงพยาบาล โรงเรียนมหาวิทยาลัย โรงงาน หรือแม้แต่พื้นที่สาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า
รถไฟใต้ดินทั้งนี้คงเป็นเพราะลักษณะการใช้งานของระบบรักษาความปลอดภัยนั้น
สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังนั้นระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
จึงควรจะต้องตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
โดยมีการออกแบบให้ครอบคลุมพื้นที่ใช้งาน เลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
เหมาะสมกันสภาวะของการใช้งานและพื้นที่ที่ใช้งาน
จะต้องมีระบบการจัดการและบริหารข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
สะดวกในการใช้งานและสะดวกในการบำรุงรักษาระบบ
ระบบฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาใช้ในการบริการ(Personalization Service)
เป็นวิธีการอีกกลยุทธ์หนึ่งขององค์กรธุรกิจ
ต่างนำมาใช้ในเป็นลักษณะของระบบการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า (Customer Relationship
Management : CRM) หรือการวางแผนทรัพยากรในองค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) มีหลายองค์กรได้นำมาพัฒนา และนำเอาระบบสารสนเทศลูกค้า
มาใช้ในการทำงานร่วมกันกับพนักงาน และลูกค้า
เพื่อประโยชน์ในการสืบค้นข้อมูลและแสดงรายงานต่างๆ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับองค์กรธุรกิจและลูกค้าได้ดี
e-Marketing
Planning
the
SOSTAC framework developed by Paul Smith (1999) ซึ่งสามารถสรุปขั้นตอนที่เกี่ยวข้องได้
6 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
Situation
– where are we now?
Objectives – where do we want to be?
Strategy – how do we get there?
Tactics – how exactly do we get there?
Action – what is our plan?
Control – did we get there?
6 Cs กับความสำเร็จของการทำเว็บไซต์
C ontent (ข้อมูล)
--- ข้อมูลใหม่สดเสมอ
--- ข้อมูลมีความถูกต้อง
--- อ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูล
C ommunity (ชุมชน,สังคม)
คือ การรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง
ที่อยู่ร่วมกันภายใต้สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง โดยมีการพูดคุย
หรือทำกิจกรรมร่วมกันภายในสถานที่แห่งนั้น
องค์ประกอบในการสร้าง Community ในเว็บไซต์
1.เว็บบอร์ด
(Web Board)
2. พิ๊กโพสต์ (Pic
Post)
3. ไดอารี่
หรือ บล็อก (Diary or Blog)
4. ข่าว (News)
+ Web Board
5. รวมลิงค์
เว็บไซต์
6. ห้องแช๊ตรูม (Chat Room)
C ommerce (การค้าขาย)
คือ การทำการค้าขายผ่านเว็บไซต์
ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ได้ เช่นเว็บข้อมูล (Content), เว็บโปรแกรมมิ่ง, เว็บ Community
C ustomization (การปรับให้เหมาะสม)
คือ
รูปแบบการให้บริการที่สามารถปรับแต่งการใช้งานให้มีความเหมาะสมกับ ผู้ใช้บริการภาย
ในเว็บไซต์
--- การปรับแต่งข้อมูลเพื่อการบริการ
--- การปรับแต่งสินค้าเพื่อการค้า
--- การเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อการนำเสนอข้อมูล
C ommunication , Channel (การสื่อสารและช่องทาง)
คือ
ช่องทางในการสื่อสารและติดต่อกับผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ของคุณ
จริงๆ แล้วสิ่งที่คุณมีอยู่ในเว็บไซต์คุณคือ
ข้อมูล (Content) หรือ
บริการ (Service) ซึ่งเป็นเพียงแค่
“ช่องทาง” ในการ “เข้าถึง” ข้อมูลหรือบริการเหล่านั้น
C onvenience (ความสะดวกสบาย)
การใช้งานง่าย (Usability)
1. "ดู" ง่าย
•
การวางรูปแบบ (Layout)
• รูปภาพ
และไอค่อน ( Image & Icon)
•
ขนาดตัวอักษร (Font) และการจัดหน้า
•
การออกแบบระบบนำทางที่ดี
•
มี Site map ในเว็บ
2. "เรียนรู้"
ได้ง่าย
3. "จดจำ"
วิธีการใช้งานได้ง่าย
4. "เข้าถึง"
ได้ง่าย
5. ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
6. การเจอปัญหาและการแก้ไข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น