วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สรุป บทที่ 2 E-Business Infrastructure


 บทที่ 2 E-Business Infrastructure


E-Business Infrastructure
หมายถึง การรวมกันของฮาร์ดแวร์ เช่น Server, Client PC ในองค์กรรวมถึงการใช้เครือข่ายในการเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์เหล่านี้และการใช้งาน ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการส่งมอบบริการให้กับผู้ใช้งานที่อยู่ในบริษัทและยังรวม ถึงคู่ค้าและลูกค้าของตน ซึ่งคำว่า Infrastructure ยังรวมไปถึงสถาปัตยกรรมทางด้าน Hardware , Software และ เครือข่าย ที่มีอยู่ในบริษัทด้วย และท้ายที่สุด ยังรวมไปถึง กระบวนการในการนำเข้าข้อมูลและเอกสารเข้าสู่ระบบ E-business ด้วย




ปัญหาทั่วไปที่พบ

  • การติดต่อสื่อสารกับเว็บไซต์ยังล่าช้า
  • เว็บไซต์ไม่ตอบสนอง
  • ปัญหาที่รบกวนในระบบสารสนเทศ
  • สินค้าส่งไม่ทันเวลา
  • อีเมลไม่มีการตอบกลับ
  • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้ายังไม่มีประสิทธิภาพดีพอ



A 5 layer-model of e business infrastructure





ส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐาน E-business infrastructure มี 5 ชั้

ชั้นที่ 1  E-business service applications layer ชั้นของแอพพริเคชัน คือ ชั้นของโปรแกรมต่างๆ จะเป็นการใช้แอปพริเคชั่น โดยไม่สนใจซอฟต์แวร์ เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาใช้งานได้เลย
ชั้นที่ 2  System Software layer การนำโปรแกรมที่มาใช้งานให้ประสบความสำเร็จในชั้นที่1เป็นเรื่องของการจัดการซอฟต์แวร์ จัดหาเว็บบราวเซอร์ ติดต่อเครือข่าย
ชั้นที่ 3  Transport or Network layer เป็นชั้นที่ใช้ในการสื่อสาร เช่น พวกโปรโตคอล(TCP/IP)ต่างๆประสานงานกับเครืองแม่ข่ายกับลูกข่าย 
ชั้นที่ 4  Storage/Physical layer เป็นชั้นที่ใช้เก็บพวกข้อมูลต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิกส์ แรม ว่าเก็บข้อมูลไว้ในส่วนใด เมื่อไร ใช้เก็บอะไร การสำรองข้อมูลต่างๆ
ชั้นที่ 5  Content and Data layer ชั้นนี้เกี่ยวข้องกับพวก อินเตอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต การจัดการกับข้อมูล




INTERNET

A global network connecting millions of computers. More than 100 countries arelinked into exchanges of data,news andopinions. 

อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการ เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่าง คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (TCP/IP) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้





ภาษาที่มักใช้ในการสนทนาในอินเตอร์เน็ต





ไฟร์วอลล์ ( firewall ด่านกันบุกรุก) คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย หน้าที่ของไฟร์วอลล์คือเป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสาร โดยการกำหนดกฎและระเบียบมาบังคับใช้โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลระบบเครือข่าย โดยความผิดพลาดของการปรับแต่งอาจส่งผลทำให้ไฟล์วอลล์มีช่องโหว่ และนำไปสู่สาเหตุของการโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้

        





ระดับของการจัดการ (Levels of Management)





การจัดการในระดับเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) หมายถึงการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) วัตถุประสงค์ (Objective) เป้าหมาย (Goal) ขององค์การในระยะสั้นและระยะยาว จากนั้นจึงวางแผนทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้องค์การสามารถดำเนินงานตามพันธกิจ  อันนำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง 


การจัดการในระดับยุทธวิธี (Tactical Management)
การควบคุมการจัดการในระดับยุทธวิธีจะเกี่ยวกับการจัดหาและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดการระดับสูง ผู้จัดการในระดับนี้ทำหน้าที่ในการวางแผนงานสำหรับหน่วยปฏิบัติงานระดับล่าง เช่น ศูนย์กลางการขายและการผลิต เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ผู้จัดการระดับกลางนี้ต้องการรายงานสรุปจากการปฏิบัติงานของบริษัท เพื่อใช้ในการ ตัดสินใจเชิงยุทธวิธี เพื่อที่จะปฏิบัติตามนโยบายการตัดสินใจที่ถูกกำหนดมาจากระดับบนหรือระดับกลยุทธ์ของบริษัท


การจัดการในระดับปฏิบัติการ (Operational Management)
ได้แก่การปฏิบัติงานในระดับที่ต่ำที่สุด ผู้ควบคุมการทำงานในระดับนี้ ต้องการรายละเอียดสารสนเทศที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ตามขบวนการผลิตของบริษัทในแต่ละวัน การควบคุมการปฏิบัติการในระดับนี้จะต้องพิจารณาหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยขบวนการตัดสินใจในระดับนี้ต้องการสารสนเทศเกี่ยวกับ งานที่จะต้องปฏิบัติ, ทรัพยากรที่มีอยู่ ความร่วมมือที่ต้องการจากส่วนปฏิบัติงานอื่นๆ ภายในองค์กร, มาตรฐานและงบประมาณที่สามารถใช้ได้, และผลสะท้อนกลับที่ใช้ในการประเมินผลลัพธ์




วิวัฒนาการของเว็บไซต์

Web 1.0 ยุคแห่งการเริ่มต้น




  • การตอบโต้ทางเดียว
  • เริ่มมีการนำกระดานข่าว (webboard) มาใช้เป็นแหล่งที่ให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถแสดงความคิดเห็นหรือแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสารกันได้ แต่กระดานข่าวยังไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ
  • ไม่มีการสนับสนุนหรือตัวช่วยในการค้นหาข้อมูล
  • ตัวอย่างลักษณะของเว็บไซต์ในยุค Web 1.0 เช่น การสร้างเว็บไซต์บน GeoCities


Web 2.0 ยุคแห่งการพัฒนาการและการเชื่อมโยง



  • จุดเด่นคือ  การที่ผู้ใช้มีส่วนสร้างเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้ 
  • Read and write
  • Web 2.0 สามารถมีส่วนเกื้อหนุนเป็นอันมากต่อการสร้างสังคมที่มีการเรียนรู้
  • ตัวอย่างพื้นฐานของ Web 2.0 คือ Wikipedia , blog , Feed 
  • เริ่มมีการพัฒนา พวก Web Board, Blog, Wikipedia
  • บุคคลทั่วไปสามารถสร้างเนื้อหา มีการนำภาพมาแชร์ นำวีดีโอ มา Post มีการแชร์ แบ่งบันแลกเปลี่ยน พูดคุย และนำเสนอข้อมูลต่างๆ เองได้




Web 3.0 ยุคแห่งโลกอนาคต



  • สร้างความฉลาดเทียมให้กับสิ่งไม่มีชีวิต ใช้เป็นเครื่องมือช่วยคาดเดาพฤติกรรม วิเคราะห์ความต้องการของมนุษย์
  • ระบบจะประมวลผลอย่างมีเหตุผล พร้อมทั้งแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า สร้างสิ่งที่ต้องการให้ผู้ใช้
  • เว็บไซต์มีการเชื่อมโยงเนื้อหาสัมพันธ์ที่มีความ สัมพันธ์กันกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ



Web 4.0


  • เรียกกันว่า “A Symbiotic web
  •  ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ Ubiquity, Identity และ Connection
  • web ที่มีทำงานแบบ Artificial Intelligence (AI) หมายถึง การสร้างให้คอมพิวเตอร์ให้สามารถคิดได้ มีความฉลาดมากขึ้น ในการอ่าน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น